ชุดไทยจักรี ตั้งชื่อตามพระที่นั่งจักรีมหาประสาท (ชุดไทยห่มสไบ) ซิ่นมีจีบยกข้างหน้า มีชายพก ใช้ผ้ายกมีเชิงหรือยกทั้งตัวคาดเข็มขัดไทย ท่อนบนเป็นสไบ จะเย็บติดกับซิ่นหรือท่อนเดียวกัน หรือจะมีสไบห่มต่างหากก็ได้เปิดบ่าข้างหนึ่ง ชายสไบคลุมทิ้งชายด้านหลังยาวเห็นสมควร ใช้สำหรับงานตอนเช้า สวมใส่เครื่องประดับให้งดงามตามโอกาส

ประวัติของชุดไทยพระราชนิยมจักรี 

ชุดไทยพระราชนิยม เกิดขึ้นในปี พ.. 2507  โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถได้มีการวินิจฉัยออกแบบชุดไทยและแบ่งออกเป็น 8 แบบด้วยกัน หรือเรียกว่าชุดไทยพระราชนิยม จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค เป็นผู้ตั้งชื่อชุดไทย เพื่อให้เหมาะสมกับชุดต่างๆ ประกอบไปด้วย ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยจักรพรรดิ ชุดไทยดุสิต และชุดไทยจักรี  ต่อมาจึงได้มีการนำชุดไทยทั้ง 8 แบบหรือชุดไทยพระราชนิยมไปเผยแพร่ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปี งานกาชาดสากล พ.. 2507  และนี่ก็คือเรื่องราวประวัติความเป็นมาของชุดไทยพระราชนิยมจริงๆแล้ววัตถุประสงค์ของการจัดตั้งชุดไทยพระราชนิยมขึ้นมานี้ก็เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยในด้านการแต่งกายเนื่องจากในสมัยนั้นคนไทยส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากชาติตะวันตกเป็นอย่างมากทั้งเรื่องของการใช้ชีวิตและเครื่องแต่งกายและเพื่อไม่ให้คนไทยได้หลงลืมวัฒนธรรมความเป็นไทยโดยให้คงเอกลักษณ์ความเป็นไทยในด้านการแต่งกายหรือชุดแต่งกายประจำชาติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงตระหนักถึงเรื่องนี้จึงได้มีการจัดตั้งชุดไทยพระราชนิยมขึ้นมานั่นเอง

(ชุด ไทย จักรี) ชุดไทยพระราชนิยมแบ่งออกเป็น 8 ประเภทดังนี้

ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยศิวาลัย  ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยดุสิต ชุดไทยจักรพรรดิ และชุดไทยจักรี 

ที่โดยตั้งชื่อตามพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทหรือชุดไทยห่มสไบลักษณะคือผ้าซิ่นจะมีจีบยกข้างหน้าและมีชายพกผ้ายกมีเชิงหรือยกทั้งตัวคาดเข็มขัดไทยในส่วนของท่อนบนจะเป็นสไบที่เย็บติดกับผ้าซิ่นเนื้อผ้าเดียวกันหรืออาจมีสไบสำหรับห่มต่างหากในกรณีที่เปิดบ่าข้างหนึ่งชายสไบพาดไปด้านหลังความยาวพอสมควรนิยมใช้สำหรับพิธีในตอนค่ำหรืองานพิธีสำคัญต่างๆตามวัฒนธรรมของชาวไทยส่วนใหญ่จะนิยมใส่แบบเต็มยศนอกจากนั้นยังสามารถสวมใส่เครื่องประดับทองเพื่อตกแต่งให้ดูสวยงามเพิ่มมากขึ้นเช่นสร้อยสังวาลสร้อยข้อมือรัดแขนเข็มขัดสร้อยคอหรือต่างหูเป็นต้น

ชุดไทยจักรี ถ้าถามว่านิยมใช้ในโอกาสไหนมากที่สุด

ในอดีตนิยมสวมใส่ชุดไทยจักรีในงานยามค่ำคืนหรือพระราชพิธีที่สำคัญต่างๆ  แต่ปัจจุบันนิยมสวมใส่ในงานพิธีมงคลสมรสสำหรับเจ้าสาวยิ่งได้ช่างตัดเย็บปักฝีมือดีมีประสบการณ์ช่วยให้ชุดไทยจักรีมีความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

สำหรับเทคนิคการเลือกชุดไทยที่เหมาะกับผู้สวมใส่นั้นจะมีเทคนิคที่ละเอียดและยิบย่อยมากเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาแนะนำให้เจ้าสาวลองไปสวมใส่ชุดที่ร้านหรืออาจขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านชุดไทยโดยตรงว่าควรเลือกใส่ชุดไทยแบบไหนให้ดูเหมาะสมกับตนเองเพราะการสวมใส่ชุดไทยให้ออกมาดูสวยงามนั้นใช่ว่าจะเลือกสวมใส่ชุดไหนก็ได้ในความเป็นจริงมีเทคนิคและเคล็ดลับต่างๆมากมายเช่นการเลือกชุดไทยให้เหมาะสมกับสีผิวหรือการเลือกชุดไทยให้เหมาะสมกับรูปร่างเป็นต้น

เอาล่ะค่ะเมื่อได้รู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของชุดไทยพระราชนิยมแล้วแต่วันนี้เราจะขอพูดถึงเฉพาะลักษณะของชุดไทยจักรีเท่านั้นโดยชุดไทยจักกรีสังเกตได้ง่ายๆเลยก็คือเสื้อจะเข้ารูปและเปิดไหล่ชายเสื้อเย็บติดกับผ้าซิ่นท่อนล่างตัวเสื้อไม่มีคอหรืออาจเป็นเสื้อตัวในที่ไม่มีแขนจากนั้นจะมีการห่มทับด้วยสไบชายเดียวส่วนผ้าซิ่นจีบยกข้างหน้ามีชายพกตามด้วยการคาดเข็มขัดแบบไทยๆตกแต่งให้สวยงามด้วยการเสริมใส่เครื่องประดับทองเช่นสร้อยคอสร้อยข้อมือต่างหูแหวนรัดหรือสร้อยสังวาลเป็นต้น