4 ผ้าไหมและผ้าไทยที่นิยมสวมใส่เป็นชุดแต่งงาน
ผ้าไทยนั้นเป็นผ้าที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยสง่าที่เหนือกาลเวลาและคุณค่าที่ไม่มีวันตกยุค ไม่ว่าจะนำมาตัดชุดแบบไหนหรือจะสวมใส่เมื่อใดก็ให้ความรู้สึกที่ดูล้ำค่าและยังดูร่วมสมัย โดยเฉพาะการนำมาตัดเย็บเป็นชุดแต่งงาน ซึ่งเราเชื่อว่าการได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวผ้าไหมไทยในวันพิเศษนั้นจะต้องเป็นหนึ่งในความฝันของสาว ๆ หลายคนอย่างแน่นอน
วันนี้เราจะพามารู้จักกับ 4 ผ้าไทยที่นิยมนำมาตัดเย็บเป็นชุดแต่งงาน ผ้าที่ดูหรูหราแต่แฝงไปด้วยความอ่อนหวานน่าหลงใหล มาดูกันว่าผ้าลายไทยมีกี่แบบ และแต่ละแบบนั้นมีความพิเศษอย่างไรบ้าง
ผ้าไหมและผ้าไทย 4 ประเภทที่นิยมสวมใส่ในวันแต่งงาน
1. ผ้ากรองทอง
ผ้ากรองทองนั้นเป็นผ้าที่มีความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยไทยโบราณ ลักษณะคล้ายผ้าสไบ ในสมัยก่อนมักใช้สำหรับเจ้านายผู้หญิงที่เป็นชนชั้นสูงเท่านั้น เนื่องจากมีวิธีในการทำที่ละเอียดอ่อนและต้องใช้ความประณีตเป็นอย่างมาก ด้วยการนำเงินหรือทองมาฝานเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำมาถักให้เป็นลวดลายตลอดทั้งผืน เรียกกันว่าแล่งเงิน แล่งทอง โดยคำว่าแล่งนั้นมาจากคำกริยาที่หมายถึงการผ่า ฟัน หรือฝานวัตถุให้แยกออกจากกันนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีการนำปีกของแมลงทับที่มีความแวววาวเป็นเอกลักษณ์มาตัดให้เป็นรูปใบไม้ แล้วปักลงไปบนผ้าให้ดูราวกับเป็นลายใบไม้
ในปัจจุบัน ผ้ากรองทองเป็นที่นิยมในการนำมาห่มเป็นสไบสำหรับชุดเจ้าสาวไทย เปลี่ยนจากการใช้แล่งเงิน แล่งทอง เป็นเส้นไหมเงิน เส้นไหมทองในการบรรจงถักทอขึ้นมาเป็นลวดลายรูปดอกไม้ และเสริมด้วยผ้าซับในหรือสไบที่ปักด้วยดิ้นเงิน ดิ้นทอง หรือเส้นไหมหลากสี ทำให้ได้ผ้าที่มีความอ่อนหวาน งดงาม และดูหรูหรา เมื่อนำมาห่มกับชุดไทยแล้วทำให้เจ้าสาวดูสวยสง่าอย่างที่สุด
2. ผ้ายกเงิน ผ้ายกทอง
ในการแต่งชุดเจ้าสาวไทย สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือผ้านุ่ง ซึ่งผ้านุ่งที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือผ้ายกเงิน ผ้ายกทอง อันเป็นผ้าไหมไทยที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนาน โดยประเพณีการแต่งงานของไทยโบราณนั้น เจ้าสาวจะเลือกนุ่งผ้าที่สวยและมีราคามากที่สุด และผ้ายกเงิน ผ้ายกทอง ก็เป็นหนึ่งในผ้าที่มีความพิเศษเป็นอย่างมาก เพราะจะต้องอาศัยทั้งวัสดุชั้นเลิศและฝีมือชั้นครูในการตัดเย็บ กว่าจะได้มาเป็นผ้าหนึ่งผืนนั้น ต้องใช้ถึง 4 คนในการทอเลยทีเดียว ทำให้มูลค่าของผ้าชนิดนี้อาจมีราคาสูงตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน
ความพิเศษของผ้ายกเงิน ผ้ายกทองก็คือการใช้เทคนิคในการทอตามแบบฉบับโบราณ เลือกใช้เส้นไหมเส้นเล็กที่มีความบางเบา นำมาย้อมให้ได้สีที่สวยงามตามธรรมชาติ และทอยกลวดลายให้นูนสูง ทำให้สามารถมองเห็นความละเอียดและความงดงามของลวดลายได้อย่างชัดเจน จึงเป็นที่มาของคำว่า “ผ้ายก” นั่นเอง
3. ผ้ายกดอกลำพูน
ผ้ายกดอกลำพูนหรือผ้าไหมยกดอกเป็นศิลปะการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวลำพูน เปรียบเสมือนเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความงามของธรรมชาติลงบนผืนผ้า บรรจงถักทอเป็นลวดลายดอกไม้และใบไม้อันสวยงาม และผสมผสานเข้ากับลวดลายไทยอันอ่อนช้อยตามแต่จินตนาการของผู้ทอ มีความโดดเด่นที่การใช้เส้นไหมหลากสีเพื่อทำให้ลวดลายนั้นดูงดงามยิ่งขึ้น สามารถนำมาแต่งเป็นชุดไทยได้หลากหลาย ทั้งชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยจักรพรรดิ และชุดไทยบรมพิมาน ซึ่งเมื่อใช้ผ้าชนิดนี้ในการตัดเย็บ จะทำให้ชุดเจ้าสาวดูสวยโดดเด่นและขับให้เจ้าสาวดูสวยสง่าเป็นอย่างมาก
ด้วยความพิเศษนี้จึงทำให้ผ้ายกดอกลำพูนกลายมาเป็นหนึ่งในผ้าไทยที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากจะสวมใส่สักครั้งในวันแต่งงานนั่นเอง
4. ผ้าไหม
ปัจจุบันนี้ผ้าไหมไทยไม่ใช่แค่เหมาะสำหรับนำมาตัดเย็บเป็นชุดไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาตัดเย็บเป็นชุดเจ้าสาวได้อย่างหลากหลาย ด้วยความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น เมื่อนำมาตัดเย็บเป็นชุดเจ้าสาวจึงเป็นการผสมผสานความเลอค่าแบบโบราณกับความงดงามของดีไซน์สมัยใหม่ กลายมาเป็นชุดเจ้าสาวที่ดูร่วมสมัยและน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง เช่น การนำมาตัดเป็นชุดกระโปรงยาวหรือชุดราตรีในสไตล์เรียบหรู ตกแต่งด้วยผ้าชีฟองหรือผ้าลูกไม้ จนได้ออกมาเป็นชุดเจ้าสาวสุดพิเศษที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ควรค่าแก่การสวมใส่ในวันสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต
สำหรับใครที่สนใจการนำผ้าไหมหรือผ้าไทยมาตัดเย็บเป็นชุดแต่งงาน สามารถปรึกษาได้เลยที่ Alta Bridal เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญในด้านการออกแบบและตัดเย็บชุดแต่งงานโดยเฉพาะ ทีมงานของเราอยู่เบื้องหลังความสวยงามของเจ้าสาวมาแล้วมากมาย การันตีด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เราพร้อมดูแลและให้คำแนะนำในทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้ชุดที่สวยที่สุดและเหมาะกับสไตล์ของเจ้าสาวที่สุด ติดต่อเราได้เลยที่ LINE @altabridal หรือโทร. 086-043-4294
Related Posts
December 21, 2021
เตรียมงานแต่ง ใครว่าเป็นเรื่องยาก
November 23, 2020